6 ระดับความสุกของเนื้อสเต็ก สั่งแบบไหนให้อร่อยโดนใจ
สำหรับท่านใดที่พึ่งเริ่มเข้ามา ศึกษาเกี่ยวกับเรื่องเนื้อ เป็นมือใหม่ที่ต้องการทราบ ว่าหากจะทำสเต๊กทาน จะต้องมีความสุกระดับใด จึงจะเหมาะกับความต้องการของตนเอง หรือบางคนต้องการนำความรู้ ไปเปิดร้านขายอาหาร วันนี้ เชฟ แฮปปี้ ทาง ร้านคัม ขอนแก่น ได้รวบรวมข้อมูล ที่ทุกคนควรรู้ มาไว้ให้ได้ศึกษากันดังนี้
หัวข้อประโยชน์ของเนื้อวัวน่ารู้
6 ระดับความสุกของเนื้อ ระดับไหนอร่อยที่สุด แต่ละแบบย่างกี่นาที ?
เมื่อนึกถึงเนื้อวัวคุณภาพ และรสชาติดี เมนูที่สายเนื้อนึกถึงเป็นอันดับแรก ก็คงไม่พ้น สเต๊ก เมนนูอาหารเชื้อสายฝรั่งเศษ ที่เป็นเมนูยอดฮิต และได้รับความนิยมไปทั่วโลก สเต๊กที่เราทาน หรือสั่งตามร้านอาหาร แท้จริงแล้วมีให้ทุกท่านได้ เลือกทาน ระดับความสุกเนื้อ ทั้งหมด 6 ระดับ ซึ่งวันนี้เราไปดูกันเลยดีกว่าว่า 6 ระดับความสุกของสเต็ก จะมีอะไรบ้าง และมีวิธีขั้นตอนการ ย่างเนื้อกี่นาที ไปเริ่มกันเลย!
1. Blue Rare
2. Rare
แรร์ (Rare) หรือ เมนูในร้านอาหารชื่อ Rare Steak เป็นระดับความสุก ของเนื้อด้านในที่ 75% ซึ่งสุกมากขึ้นกว่าระดับแรก เนื้อด้านนอกมี สีน้ำตาลอทเทา เนื้อที่ถัดเข้ามาจะออกแดงชมพู ตรงกลางสุดจะ มีความแดงคลายเนื้อดิบ โดยก็ยังเป็นระดับ ที่ไม่ได้รับความนิยมใน วงการสายเนื้อประเทศไทยเช่นกัน ส่วนรสชาติ จะมีความหอมนุ่มเข้มข้น มากกว่าเนื้อดิบนิดหน่อย ความเหนียวก็ยังคงมี แต่น้อยกว่ามากระดับบูลแรร์ เรื่องกลิ่นคาวอาจจะดีขึ้น แต่ถ้าสำคนที่ชอบ ทานเนื้อดิบอยู่แล้ว จะไม่มีปัญหา ส่วนคนที่ยังไม่เคยทานเนื้อมาก่อน ไม่แนะนำให้สั่งความสุกระดับนี้
3. Medium Rare
มีเดียม แรร์ (Medium Rare) หรือMedium Rare Steak คือ ระดับความสุกของเนื้อที่ด้รับ ความนิยมสูงสุดในประเทศไทย ผิวเนื้อด้านนอกสุก 50% มีสีน้ำตาลเข้ม ส่วนด้านในมีความดิบ 50% ซึ่งเป็นสีแดงตรงกลางชิ้้นเนื้อ และนับเป็นระดับความสุก ที่ทำให้เนื้อ มีรสชาติดีที่สุดอีกด้วย เนื้อจะหอมนุ่ม และมีความฉ่ำมากที่สุด เรียกได้ว่า แม้คนที่ไม่เคยทานเนื้อ ยังต้องยอมจำนนให้กับ การย่างสเต๊กในความสุกระดับนี้
4. Medium
สำหรับความสุกของใน ระดับ Medium หรือ มีเดียม คือ จะมีความสุกของเนื้อ ขึ้นมาอีกนิดหน่อย โดยด้านนอกจากมีสีน้ำตาลเข้ม ไล่ระดับมาน้ำตาลอ่อนลงมาไปจนถึงเนื้อด้านในที่ยังคงเป็นสีชมพูอยู่ เหมาะสำหรับคนที่รสสัมผัสในการเคี้ยว เพราะด้านนอกจะมีความเหนียวขึ้นมา แต่ข้างในจะมีความฉ่ำของน้ำเนื้อ ไม่แห้งมาก ทั้งยังมีความเข้มข้นของรสเนื้ออยู่ด้วย โดยระดับความสุกนี้จะเหมาะกับ การทำเนื้อวากิว A4 เพราะไขมันของเนื้อจะละลายได้ที ไม่เหนียวแต่ให้รสสัมผัสที่นุ่มกว่าเดิม เหมือนเนื้อละลายหายไปในปาก และการย่างระดับนี้ไม่เหมาะกับเนื้อสเต็กที่มีชิ้นหนา เพราะอาจจะรู้สึกว่าเนื้อมีความเหนียมเกินไป
5. Medium-Well
เคล็ดลับการย่าง : สำหรับการย่างเนื้อ medium well (มีเดียมเวล) นำเนื้อที่แช่เย็นไว้ออกมาพัก ในอุณหภูมิจนละลายดีแล้ว ค่อยตั้งกระทะให้มีความร้อน ในน้ำมันมะกอก หรือ เนย จนละลายดีแล้วก็ใส่เนื้อตามลงไป อาจจะใส่ไปใบไทม์ โรสแมรี่ กระเทียม ให้ได้ความหอม โดยเราจะย่างเนื้อใช้เวลาข้างละ 7 – 8 นาที ขึ้นอยู่กับความหนาของเนื้อที่ใช้ จึงจะได้ความสุกที่ต้องการ หรือ หากที่บ้านมีเครื่องเทอร์โมมิเตอร์ ที่ใช้วัดอุณภูมิสำหรับทำอาหารแล้ว ก็นำไปจิ้มที่ตรงกลางของเนื้อ โดยที่วัดจากอุณหภูมิด้านในเนื้อให้อยู่ที่ประมาณ 65.5° C ก็สามารถนำขึ้นมาพักแล้วค่อยจัดเสิร์ฟ
6. Well Done
เคล็ดลับการย่าง : สำหรับการย่างเนื้อ สเต็ก เวลดัน (well done) นำเนื้อออกมาพักไว้อุณภูมิห้อง เมื่อเนื้อได้อุณภูมิห้องแล้ว ให้ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทยทั้งสองด้าน จึงตั้งกระทะบนไฟให้ร้อน ใส่น้ำมันมะกอก เนย แล้วนาบเนื้อลงไป เมื่อด้านนอกได้สีที่ต้องการแล้ว จึงใส่โรสแมรี่ ใบไทม์ กระเทียม หรือจะใส่หอมใหญ่หั่นแว่นตามลงไปในกระทะ โดยให้ความร้อนแต่ละด้านอยู่ที่ 9 – 10 นาที จึงพลิกด้าน ก็จะได้ความสุกของเนื้อที่ต้องการ
อ่านเพิ่มเติม :
เนื้อส่วนไหนย่างอร่อย
5 สูตรเด็ด! หมักเนื้อให้นุ่ม
วิธีเช็ค ระดับความสุกของเนื้อ ด้วยมือคุณเอง
และอีกหนึ่งวิธีสำหรับ การเช็คความสุกของเนื้อ โดยไม่ต้องจับเวลา หรือ ใช้เครื่องมือวัดอุณภูมิของเนื้อ (เทอร์โมมิเตอร์) เลย นั่นก็คือ มือของเราเอง แต่วิธีนี้ไม่แนะนำสำหรับ คนที่ทำร้านอาหาร เพราะอาจจะเกิดการผิดพลาดได้ แต่สำหรับเชฟมืออาชีพ บางท่านก็ใช้วิธีนี้ เพราะความชำนาญของเชฟเองก็มี หรือหากมือสมัครเล่นอยากลอง เราไม่ได้ห้าม โดยวิธีการเช็คนั้นจะใช้เพียง มือข้างหนึ่งในการทำ คือ เอานิ้วโป้งกับนิ้วอื่น ๆ แตะเข้ากัน แล้วใช้มืออีกข้างกดจิ้มไปตรงโค่นนิ้วโป้ง แล้วให้ลองเอาทัพพี หรืออุปกรณ์จิ้มไปที่เนื้อบนกระทะ ดังนี้
- Rare : เอานิ้วโป้งกับนิ้วชี้จรดหากัน ตรงโค่นนิ้วจะมีความแข็ง ที่อยู่ในระดับ แรร์
- Medium Rare : เอานิ้วโป้งกับนิ้วกลางจรดหากัน เมื่อเนื้อสุกได้ที่จะมีความนุ่ม เท่ากันโค่นนิ้วโป้ง
- Medium : เอานิ้วโป้งกับนิ้วนางจรดหากัน ความสุกของเนื้อจะได้เท่ากับ ความแข็งของโค่นนิ้วโป้ง
- Well Done : เอานิ้วโป้งกับนิ้วก้อย จรดเข้าหากัน ก็ได้ความสุกของเนื้อเท่ากัน
นี่เป็นเพียงวิธีการสำหรับ คนไม่มีเทอร์โมมิเตอร์ ซึ่งอาจจะมีความคลาดเคลื่อน ของระดับเนื้ออยู่บ้าง แต่ก็เป็นอีกวิธีการหนึ่งที่ประหยัดงบ ไม่จำเป็นต้องซื้อเครืื่องมือมาใช้ โดยทั้งนี้ก่อนนำเนื้อมาย่างเป็นสเต็ก ควรเอาเนื้อที่แช่เย็นออกมาพักไว้ ให้ได้เนื้อที่อยู่ในอุณภูมิห้องจะดีกว่า เพราะสามารถทำให้การ ใช้นิ้วมือวัดไม่คลาดเคลื่อนจนเกินไป
คำถามที่พบบ่อย
- ก่อนนำเนื้อมาย่าง ต้องพักเนื้อให้มีอุณหภูมิเท่ากับ อุณหภูมิห้อง
- ต้องใช้ไฟแรงจัดในการตั้งกระทะ
- ต้องมีเทอร์โมมิเตอร์ วัดอุณหภูมิเนื้อ ให้ได้ตามที่ระบุไว้ ของแต่ละระดับ
- ร้านคัมมีสเต๊กกระทะร้อนทั้งหมด 2 เมนู ได้แก่
- สเต๊กเนื้อริบอายย่างกระทะร้อน จิ้มแจ่ว
- สเต๊กสันคอหมูย่างกระทะร้อน จิ้มแจ่ว