แจกสูตร "หมี่กะทิโบราณ" รสกลมกล่อม & หอมมันกะทิ
- เชฟ แฮปปี้
หมี่กะทิ เมนูอาหารประเภทเส้นที่ได้รับความนิยมอย่างมากในไทยไม่แพ้อาหารเส้นชนิดอื่นอย่างก๋วยเตี๋ยว ขนมจีน และยำ แต่จะให้รสชาติที่หวานมันหลมกล่อมจากน้ำกะทิ รสนวล ๆ ของการตีไข่ลงไปในน้ำแกง และการเพิ่มถั่วลิสงลงไปเพื่อให้น้ำแกงมีรสหอมมันมากขึ้น เป็นอีกเมนุน้ำแกงราดเส้นที่คนไทยนิยมทานกัน แต่ไม่ค่อยนิยมทำทานเอง ซึ่งวันนี้เชฟแฮปปี้เอาสูตรหมี่กะทิโบราณอย่างง่ายมากฝากันครับ เผื่อใครที่ไปกินที่ร้านแล้วรู้สึกว่าไม่จุใจ อยากทำกินเองมากกว่า ตามมาดูสูตรกันเลยครับ
เคล็ดลับ หมี่กะทิ
เคล็ดลับความอร่อยของหมี่กะทิ คือ หากอยากกินแบบสูตรโบราณแท้ ๆ ให้เพิ่มไข่ฝอย เป็นเครื่องโรยหน้าเพิ่มด้วย และทานคู่กับใบบัวบก หัวปลีกล้วยตานี เพราะอร่อยกว่ากล้วยพันธุ์อื่น ใบกุยช่าย และถั่วงอกดิบ และปรุงเพิ่มนิดหน่อยด้วยเครื่องปรุงอย่างพริกป่น และมะนาวก็จะได้รสชาติที่เปรี้ยว หวาน และเผ็ดนิดๆ ให้รสชาติที่อร่อยและหลากหลายขึ้น
- เตรียมวัตถุดิบ 10 นาที
- ระยะเวลาในการปรุง 40 นาที
- ระยะเวลาที่ใช้ 50 นาที
- สำหรับ 5 คนทาน
- แคลลอรี่ 450 kcal/เสิร์ฟ
ส่วนผสม
- เส้นหมี่ขาว 1 ห่อ
- กะทิ 500 ml.
- น้ำเปล่า 500 มิml.
- พริกแกงเผ็ด 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะขาม 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1 ช้อนชา
- หมูสับ 500 กรัม
- เต้าเจี้ยว 1 ช้อนโต๊ะ
- ถั่วลิวงบด 3 ช้อนโต๊ะ
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- พริกแห้งทอด ตามชอบ
- ผักเคียง ผักแกล้ม ตามชอบ
วิธีทำ
- ตั้งหม้อ ใช้เตาไฟกลาง เทกะทิลงไปประมาณ 1/4 แล้วใส่พริกแกงเผ็ดลงไปผัดกับกะทิจนแตกมัน
- ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย น้ำมะขาม น้ำปลา เต้าเจี้ยว และเกลือ
- ใส่หมูสับลงไปผัดให้เข้ากับเครื่อง ผัดให้หมูสับแตกกระจายออกจากกัน ไม่ให้หมูจับกันเป็นก้อน ใส่น้ำเปล่าและใส่กะทิที่เหลือลงไป แล้วเคี่ยวต่อด้วยไฟเบาประมาณ 10 นาที จนน้ำกะทิเริ่มเหือดลง
- ใส่ถั่วลิสง และตีไข่ไก่ใส่ลงไป ในขั้นตอนนี้จะต้องคนไข่ให้แตกทันทีเพื่อไม่ให้ไข่จับตัวเป็นก้อน และจะได้น้ำราดหมี่กะทิที่มีความข้นนวลน่ากิน
- เมื่อเคี่ยวจนครบตามเวลาแล้วก็ยกขึ้นมาพักไว้ก่อน แล้วตั้งหม้อน้ำเปล่าอีกครั้งเพื่อลวกเส้นหมี่ โดยลวกในน้ำเดือด 1-2 นาที
- เสร็จแล้วยกขึ้นจัดใส่ถ้วย แล้วราดน้ำแกงที่ปรุงไว้ลงไป โรยพริกแห้งทอด จัดเสิร์ฟพร้อมผักเคียง เพียงเท่านี้ก็จะได้หมี่กะทิอร่อย ๆ มาทานแล้วครับ
สรุป
หมี่กะทิที่คนไทยหลาย ๆ คนรู้จักนั้นอาจบอกไม่ได้ว่าต้นกำเนิดมาจากภาคไหนกันแน่เพระาแต่ละภาคก็จะมีสูตรในการทำแตกต่างกันออกไป เช่น ในภาคอีสาน ก็จะมีหน้าตาคล้ายกับขนมจีนน้ำพริก มีน้ำราดแยก ส่วนภาคใต้ ก็จะใช้พริกแกงพริกเผา นำมาผัดกับกะทิ ใส่เฉพาะเต้าเจี้ยว ไม่ใส่น้ำปลาและในภาคกลาง ก็ใช้วิธีผัดเส้นหมี่เข้ากับซอสที่ทำมาจากกะทิ ใส่หมู เต้าเจี้ยว น้ำมะขามเปียก และแต่งสีเส้นหมี่ให้เป็นสีชมพูน่าทานด้วยซอสมะเขือแดงด้วย